วันพุธที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2562

เล็บขบ...;วิธีแก้เล็บขบ...

เล็บขบ...;วิธีแก้เล็บขบ...

ขอบพระคุณเจ้าของข้อมูล

"เล็บ" มีหน้าที่ป้องกันอันตรายให้นิ้ว และส่วนนี้จะไม่มีเส้นประสาทอยู่ ทำให้เราไม่รู้สึกเจ็บปวดเมื่อเกิดโรคขึ้นกับเล็บ แต่ถ้าเกิดโรคนั้นกินเข้าไปถึงผิวหนังแล้วล่ะก็ "เล็บ" ก็สร้างความปวดร้าวให้เจ้าของเล็บสุด ๆ เลยล่ะ โดยเฉพาะ "เล็บขบ" (Unguis Incarnatus)

สาเหตุที่ทำให้เกิด "เล็บขบ" ได้ก็คือ

1. การใส่รองเท้าที่บีบมากเกินไป เพราะจะทำให้เนื้อที่อยู่ด้านข้างของเล็บถูกบีบเข้ามา เล็บก็เลยไปกดเนื้อ ด้านข้าง เมื่อเล็บงอกมันก็จะงอกลึกลงไปในเนื้อ ทำให้รู้สึกเจ็บปวด
นอกจากนี้
การใส่รองเท้าส้นสูงเกินไป ปลายเท้าแหลมเกินไป ก็ทำให้เท้าถูกบีบจนเล็บงอกตามปกติไม่ได้ ต้องกินเข้าไปในเนื้อ

2. การตัดเล็บไม่ถูกวิธี หลายคนตัดเล็บด้านข้างเป็นมุมแหลมชิดเนื้อ หรือลึกเกินไปนั่นเอง ทำให้เล็บงอกใหม่ไปทิ่มที่ซอกเล็บ จนเกิดแผลและมีอาการปวดตามมา หรือบางคนชอบแต่งเล็บให้โค้งเข้าในซอกเล็บมากเกินไป และชอบแคะ ขูด งัดซอกเล็บบ่อย ๆ

3. การติดเชื้อราที่เล็บ

4. อุบัติเหตุ เช่น ปลายนิ้วเท้าชอบไปชนอะไรบ่อย ๆ ทำให้เล็บฉีกขาดแทงเข้าไปในซอกเล็บได้ หรือการ
เล่นกีฬา เช่น เทนนิส แบดมินตัน ฟุตบอล บาสเกตบอล ซึ่งทำให้กระดูกนิ้วทำงานหนัก

5. การมีเล็บเท้าที่กว้างกว่าปกติ หรือเกิดจากการที่นิ้วเท้ามาซ้อนเกย หรือเบียดกัน

เล็บขบทำอย่างไรดี
แน่นอนว่า "เล็บขบ" จะทำให้คุณรู้สึกปวดเล็บเป็นอย่างมาก แม้จะกินยาแก้ปวดก็บรรเทาได้เพียงชั่วครู่เท่านั้น จึงต้องทำการรักษา ซึ่งก็มีทั้งการรักษาด้วยตัวเองแบบวิธีง่าย ๆ ในรายที่เป็นไม่มาก
แต่ในรายที่เป็นมากก็คงต้องไปพบแพทย์

วิธีในการรักษาเล็บขบด้วยตัวเองกันก่อน

วิธีนี้เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่ยังมีอาการไม่มาก เพียง
แค่ปวดบวมแดงเล็กน้อย และยังไม่มีหนอง ทำได้โดย

1. แช่เท้าในน้ำอุ่น หรือน้ำเกลืออุ่น ๆ สัก 10 นาที เพื่อบรรเทาอาการปวด

2. ตัดเล็บส่วนเกินที่ไม่เจ็บออก เพื่อไม่ให้มีเศษผง หรืออะไรสกปรกค้างอยู่ เพราะเศษสกปรกนี้จะทำให้เกิดการอักเสบติดเชื้อรุนแรงขึ้น

3. ใช้แอลกอฮอล์ 70% เช็ดเล็บให้สะอาด

4. หาวัสดุอะไรสักอย่างที่เล็ก ๆ บาง ๆ แข็ง ๆ พอสมควร เช่น เส้นด้าย ไม้จิ้มฟันก้านบาง ๆ หรือไหมขัดฟัน สอดเข้าไปใต้เล็บ งัดเอาเล็บขึ้นมา ตรงนี้อาจจะรู้สึกปวดบ้าง ให้ทำอย่างเบามือที่สุด

5. เอาสำลีสอดลงไปบริเวณที่เล็บมันจิกขบอยู่ จะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดลงได้ แล้วกินยาปฏิชีวนะ ประเภทเตตร้าซัยคลิน หรือแอมพิซิลลิน และก็กินยาแก้ปวดพวกพาราเซตามอล จะบรรเทาอาการเจ็บปวดและการอักเสบจากการติดเชื้อลงได้มาก

คนไข้ที่ใช้วิธีนี้รักษาเล็บขบยังสามารถอาบน้ำล้างเท้าได้ตามปกติ และควรจะถูสบู่ที่ซอกเท้า ซอกเล็บ วันละ 2 ครั้ง เพื่อกำจัดเชื้อโรคออกไปด้วย หลังอาบน้ำเสร็จควรใช้แอลกอฮอล์ 70% เช็ดเล็บให้สะอาด แล้วใช้ผ้าพันไว้ เพื่อจะได้ไม่โดนอะไรสกปรกอีก
และที่สำคัญต้องเลิกใส่รองเท้าบีบ
และตัดเล็บให้ถูกต้องด้วย

สมุนไพรแก้เล็บขบ

นอกจากนี้ ยังมีวิธีการบรรเทาอาการเล็บขบด้วยการใช้สมุนไพรไทยด้วย
 มาดูกันว่า วิธีรักษาเล็บขบด้วยสมุนไพรไทย มีสูตรไหนบ้าง

สูตรที่ 1
ใช้ใบพลู หรือใบฝรั่งประมาณ 3-5 ใบ นำมาตำรวมกับเกลือประมาณ 1 หยิบมือและพอกไว้บริเวณที่เล็บขบ ใช้ผ้าพันเพื่อปิดแผลไว้ ควรพอกอย่างต่อเนื่องประมาณ 5-7 วัน อาการช้ำและเล็บขบจะค่อย ๆ ทุเลาลงจนหายดี และเพื่อความสะอาดควรเปลี่ยนผ้าพันทุกวัน วันละสองเวลาเช้าและเย็น

สูตรที่ 2
โขลกใบฝรั่งสด 2 ใบ เกลือ 1/2 ช้อนชา ข้าวสุก 2 ช้อนโต๊ะ ให้เข้ากัน นำมาพอกตรงหนองบริเวณที่เล็บขบจะช่วยบรรเทาอาการปวดได้

สูตรที่ 3
ตำไพล 1 แง่ง (ยาวประมาณ 2 นิ้ว) เกลือตัวผู้ (เกลือที่เป็นเม็ดยาว ๆ) 7 เม็ด ข้าวสุก 1 กำมือให้ละเอียด พอกบริเวณที่เป็นแผล
ภายใน 20 นาที จะทำให้หนองแตกออกมาและหายปวดได้

สูตรที่ 4
ฝานมะนาวตรงส่วนหัวออกให้พอสอดนิ้วเข้าไปได้ ใช้มีดคว้านเอาเนื้อในออกเล็กน้อย ทาปูนแดงบาง ๆ บริเวณที่เล็บขบ แล้วสอดนิ้วที่เป็นเล็บขบเข้าไปด้านในของมะนาว ทิ้งไว้ประมาณ 5-10 นาที ทำวันละ 2-3 ครั้ง เช้า-เย็น อาการจะทุเลาขึ้น


ขอขอบคุณข้อมูลจาก
ทางแพทย์สายพุทธ
Be Healthy น้าอ้วนบ้านเกษตรพอเพียง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

กระดูกทับเส้น......ป้องกันได้!!

กระดูกทับเส้น......ป้องกันได้!! ขอบพระคุณเจ้าของข้อมูล ใครไม่เคยปวดหลังร้าวชาลงขา เดินไม่ได้ ก้มไม่ได้ ต้องไม่เคยลิ้มรสความทรมานจากโรคก...